top of page
รูปภาพนักเขียนSlim Up Center

ลดพุง ได้จริง แค่ออกกำลังกาย 10 นาที ลดพุง ทุกเช้า

อัปเดตเมื่อ 24 ก.ค.



ลดพุง ได้จริง หรือจกตา !! แค่ออกกำลังกาย 10 นาที ลดพุง ทุกเช้า เนี่ยนะ ? คำตอบคือจริง ซึ่งมีผลการวิจัยเผย ออกกำลังกายตอนเช้า 10 นาที ลดไขมันได้ดีกว่า!


การออกกำลังกาย เป็นกิจกรรมยอดฮิต เพื่อเสริมสร้างสุขภาพที่แข็งแรง และคนส่วนใหญ่มักเลือกเวลาออกกำลังกายเดป็นช่วงเย็น เพราะเป็นเวลาหลังเลิกงาน มีเวลาว่างในการดูแลสุขภาพ แต่รู้ไหมว่า... ถ้าเราลองสลับเวลามาออกกำลังกายตอนเช้าแทน จะช่วยให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีกว่า โดยเฉพาะเรื่องการลดไขมัน!


แค่ออกกำลังกาย 10 นาที "ลดพุง" ได้ยังไง ???

การออกกำลังกายตอนเช้าวันละ 10 นาที ทำให้ร่างกายเราไม่หักโหมจนเกินไป และยังมีแรงเหลือไว้สำหรับการทำงานได้อีกตลอดทั้งวัน ซึ่งการตื่นมาออกกำลังกายตอนเช้า อาจเป็นเรื่องทุกข์ใจสำหรับบางคน แต่เชื่อเถอะว่า ถ้าทุกคนยอมตื่นเช้าขึ้นมาอีกสักหน่อย เราจะมีหุ่นสวยเพรียวสมใจได้เร็วกว่าการออกกำลังกายในช่วงเวลาอื่น นั่นเพราะว่า



1) เพิ่มระบบการเผาผลาญที่ยอดเยี่ยม

เพราะร่างกายของคนเรามีอัตราการเผาผลาญในแต่ละช่วงของวันที่ไม่เท่ากัน อ้างอิงได้จากงานวิจัยของ Midwest Exercise Trail 2 ที่ระบุไว้ว่า คนที่ตื่นมาออกกำลังกายตั้งแต่ช่วงเช้าไปจนถึงก่อนเที่ยงในระยะเวลานาน 10 เดือน เกือบทุกคนสามารถลดน้ำหนักตัวลงได้สำเร็จ และมีแนวโน้มที่จะลดน้ำหนักตัวได้มากกว่าคนที่ออกตอนบ่ายหรือตอนเย็น


นั่นเป็นเพราะในช่วงบ่าย – เย็น เป็นเวลาที่ร่างกายเตรียมพร้อมสำหรับการพักผ่อนมากกว่าการทำกิจกรรมต่างๆ ทำให้ระบบการเผาผลาญทำงานได้น้อยลงกว่าตอนเช้านั่นเอง




2) ลดความอยากอาหารได้ดี

สำหรับสาวๆ ที่ชอบกินจุบ กินจิบ ซึ่งโดยปกติ ช่วงเช้าของวันหลายคนมักไม่หิว และเลือกที่จะอดอาหารเพื่อลดน้ำหนัก ทำให้ระหว่างวันเกิดอาการหิวบ่อย พอถึงเวลากินจริงๆ จะกินได้มากกว่ามื้อปกติ ทำให้อ้วนง่าย และโยโย่


พอออกกำลังกายตอนเย็น ทำให้เรารู้สึกโหยหาอาหารจากการใช้พลังงานมาตลอดทั้งวัน และถ้าเราควบคุมตัวเองไม่ได้ในเวลานั้น รับรองว่า การออกกำลังกายในทุกๆ วันสูญเปล่าแน่นอน ดังนั้น การออกกำลังกายในช่วงเช้า จึงเป็นทางเลือกในการลดความอยากอาหารได้ดีกว่า



4 เทคนิคในการออกกำลังกายลดพุง ตอนเช้าอย่างปลอดภัย


1. เลือกรูปแบบการออกกำลังกายให้เหมาะสม

ในตอนเช้า เป็นช่วงเวลาที่ร่างกายกำลังฟื้นตัวจากการพักผ่อนในเวลากลางคืน ทำให้ร่างกายตื่นตัวได้ไม่เต็มที่ หากออกกำลังกายโดยไม่ศึกษาดีๆ มีโอกาสบาดเจ็บได้ง่าย


ดังนั้น ก่อนออกกำลังกายต้องวอร์มร่างกายให้อบอุ่น เพื่อให้ร่างกายได้ใช้กล้ามเนื้อนานพอสมควร รวมถึงเปิดโอกาสให้หัวใจ และปอดได้ทำความเคยชินกับการออกกำลังกายตอนเช้ามาขึ้นด้วย



ยกตัวอย่างรูปแบบการออกกำลังกายตอนเช้าที่เหมาะสม เช่น การทำคาร์ดิโอ (Cardiovascular), Burn Fat หรือ Burn Calorie เช่น การทำแอโรบิก, การวิ่ง, ปั่นจักรยาน, ว่ายน้ำ เป็นต้น



2. ออกกำลังกายในระยะเวลาที่เหมาะสม

เมื่ออยากมีหุ่นสวย สุขภาพดี ต้องการลากตัวเองออกมาจากเตียง เพื่อออกกำลังกาย โดยเราควรตื่นแต่เช้ามาออกกำลังกายอย่างน้อย 3-5 ครั้ง/สัปดาห์ ซึ่งในแต่ละครั้งควรใช้ระยะเวลาออกติดต่อกันประมาณ 10 - 30 นาทีจึงจะถึงจุดที่ระบบร่างกายสามารถเผาผลาญไขมันได้ดีที่สุด



แต่ถ้ารู้ตัวว่าเป็นคนที่ไม่เคยออกกำลังกายเลย ก็อย่าเพิ่งรีบโหมออกหนักจนเกินไป เราควรจะเริ่มต้นออกกำลังกายเบาๆ แค่ 10 นาทีต่อวัน เพื่อลดการบาดเจ็บและให้ร่างกายได้คุ้นชินกับอาการปวดเมื่อยต่างๆ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้คนเลิกออกกำลังกายกันมานักต่อนักเสียก่อน


หลังจากนั้นจึงค่อยๆ เพิ่มระยะเวลาการออกกำลังให้มากขึ้นตามความสามารถของร่างกายจนกว่าจะออกแบบต่อเนื่องได้ถึง 30 นาที



3. ควบคุมอัตราการเต้นหัวใจ (Heart Rate)

สำหรับสายออกกำลังกายแบบคาร์อิโอ อย่าลืมควบคุมอัตราการเต้นหัวใจ (Heart Rate) ให้อยู่ในจุดที่เหมาะสม เพราะร่างกายของเราก็เหมือนกับเครื่องยนต์ หากใช้งานหนักมากจนเกินไปอาจทำให้อาการบาดเจ็บ หรือเลยเถิดไปจนถึงขั้นหน้ามืด เป็นลมได้



ส่วนหลักการควบคุมอัตราการเต้นหัวใจ (Heart Rate) ที่เหมาะสมจะขึ้นอยู่กับสมรรถภาพร่างกาย ช่วงวัย และปัญหาทางสุขภาพของแต่ละคน ซึ่งแบ่งระดับความหนักได้ตั้งแต่ 40-100% ของอัตราการเต้นของหัวใจสูงสุดต่อนาที แต่สำหรับคนที่อยากออกลำลังกายเพื่อสุขภาพ และหุ่นที่ดีควรจะคุมให้ Heart Rate อยู่ที่ระหว่าง 60-90% ถึงจะช่วยเผาผลาญไขมันในร่างกายได้ดีที่สุด




4. ต้องพักให้เพียงพอ

การนอนหลับให้เต็มอิ่ม นอนให้ไววันละ 7- 8 ชั่วโมง / วัน โดยไม่ควรนอนเกินเวลา 21:00 น. เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ร่างกายได้มีระยะการฟื้นฟูบ้างตามความเหมาะสม ไม่เพียงเท่านี้ ขณะออกกำลังกายควรมีการพักบ้าง เช่น



● การพักในระหว่างการออกกำลังกาย

พักระหว่างออกกำลังกายเซ็ตเล็กๆ 1-2 นาที เพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นตัว และกลับมามีแรงเต็มที่ก่อนจะกลับไปออกกำลังกายต่อ ซึ่งเป็นวิธีป้องกันกล้ามเนื้อฉีกขาดรุนแรง และยังถือเป็นการฝึกกล้ามเนื้อให้เกิดความทนทานกับสภาพความเหนื่อยล้าจากการออกกำลังกายติดต่อกันมาหลายนาทีอีกด้วย



● การพักหลังจากการออกกำลังกาย

สำหรับใครที่เล่นเวทเทรนนิง ต้องมีช่วงให้ร่างกายได้พัก หลีกเลี่ยงการเล่นซ้ำในจุดเดิมๆ ประมาณ 2 วัน เพื่อให้ร่างกายได้ซ่อมแซมกล้ามเนื้อที่ฉีกขาดให้กลับมาแข็งแรงมากพอที่จะสร้างมัดกล้ามเนื้อที่ใหญ่ขึ้นได้ต่อไป


เพราะฉะนั้น การออกกำลังกายตอนเช้า ถือเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับคนอยากกระชับรูปร่าง สลายไขมัน และสร้างพลังให้กับร่างกายในช่วงระหว่างวันได้ดีขึ้น และเพื่อปกป้องกล้ามเนื้อไม่ให้เกิดอาการบาดเจ็บนะคะ


และสำหรับใครที่ต้องการลดพุงแบบเร่งด่วน แนะนำให้ออกกำลังกายตอนเช้า ร่วมกันกับการเข้าโปรแกรม Temobalance สลายไขมันหน้าท้อง ก็ถือว่าเป็นตัวช่วยลดน้ำหนัก และควบคุมน้ำหนักได้ดีมาก และยังเป็นตัวช่วยสำหรับการออกกำลังกายเพื่อรูปร่างที่ดีเช่นกันค่ะ


ปรึกษาลดน้ำหนัก  ไขมัน และ สัดส่วน ทักแชท

หุ่นสวย สุขภาพดี เริ่มต้นที่ Slim Up Center พร้อมให้คำปรึกษาและบริการทั้ง 18 สาขาทั่วประเทศแล้ววันนี้


Contact Us

Line : https://bit.ly/Slimupcenter หรือ @Slimupcenter

Call Center : 02-620-0000


ติดตามบทความเกี่ยวกับการลดน้ำหนักและการออกกำลังกายที่น่าสนใจได้ที่


ดู 46 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page