top of page
  • รูปภาพนักเขียนSlim Up Center

รวมอาหารลดเซลลูไลท์ และอาหารที่ทำให้เกิดเซลลูไลท์สะสมโดยไม่รู้ตัว!

อัปเดตเมื่อ 22 เม.ย.



สาวๆ รู้จักเซลลูไลท์กันไหมจ๊ะ ? ถ้าบอกว่าไม่รู้จัก ลองสังเกตตามต้นขา ต้นแขน สะโพก และหน้าท้องของเราดูว่ายังคงเรียบเนียนดีอยู่หรือผิวมีรอยบุ๋ม รอยขรุขระเป็นผิวส้ม หรือรอยแตกลายหรือไม่ ถ้ามีล่ะก็ ขอแนะนำให้รู้จักกับ “เซลลูไลท์” ค่ะ


เซลลูไลท์คืออะไร

เซลลูไลท์ก็คือ ไขมันส่วนเกินที่อยู่ใต้ผิวหนัง แผ่ขยายกินพื้นที่กดทับกล้ามเนื้อทำให้ผิวมีลักษณะเป็นรอยบุ๋ม มีรอยขรุขระเหมือนเปลือกส้ม ส่วนมากมักเกิดในวัยรุ่นหรือวัยผู้ใหญ่เพศหญิง ไม่ว่าผอม หรืออ้วนก็มีเซลลูไลท์ได้ เซลลูไลท์ไม่ก่อให้เกิดอันตราย แต่ทำร้ายความมั่นใจในรูปร่างของผู้หญิงได้อย่างสาหัส สาเหตุหลัก ๆ ที่ทำผิวเกิดเซลลูไลท์ก็คือ การรับประทานอาหารที่มีไขมันและน้ำตาลสูง หรือการอดอาหารอย่างหนักเพื่อให้น้ำหนักตัวลดลงอย่างรวดเร็ว ระบบเผาผลาญในร่างกายทำงานไม่ดี ขาดการออกกำลังกาย มีภาวะขาดน้ำ มีอาการบวมน้ำ รวมไปถึงอัตราส่วนไขมันในร่างกายผิดเพี้ยนไป


ติดตามบทความเกี่ยวกับการลดน้ำหนักและการออกกำลังกายที่น่าสนใจได้ที่


10 อาหารลดเซลลูไลท์

เซลลูไลท์สามารถกำจัดได้ด้วยวิธีการออกกำลังกายเพื่อสร้างกล้ามเนื้อใต้ผิว ให้ผิวกระชับ ลดปริมาณไขมันในร่างกาย ควบคู่ไปกับการเลือกรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง และกระตุ้นระบบเผาผลาญ เป็นวิธีที่ง่าย ปลอดภัย และกำจัดเซลลูไลท์ได้อย่างถาวร มาดูกันว่า 10 อาหารลดเซลลูไลท์ มีอะไรบ้าง อยากผิวกระชับ รูปร่างดีไม่มีเซลลูไลท์ต้องจัด !


อาหารลดเซลลูไลท์ อันดับที่ 1. แซลม่อน

แซลม่อนมีคุณค่าทางสารอาหารมากมาย และยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นตัวการสำคัญของการสร้างเซลลูไลท์ในเซลล์ผิว นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วย กรดไขมันโอเมก้า 3 ที่ช่วยลดความอยากอาหาร ลดอาการอักเสบและฟื้นคืนความแข็งแรงให้เนื้อเยื่ออ่อนที่ให้ความยืดหยุ่นแก่ผิว ทั้งยังช่วยขับสารพิษในหลอดเลือด และกระตุ้นการไหลเวียน ทำให้ผิวแข็งแรงและกระจ่างใสขึ้น


อาหารลดเซลลูไลท์ อันดับที่ 2. เมล็ดดอกทานตะวัน

เป็นแหล่งของวิตามินอี โพแทสเซียม ซิงค์ และวิตามินบี 6 ที่ช่วยเผาผลาญโปรตีนเพื่อเพิ่มความแข็งแรง และเข้าซ่อมแซมเนื้อเยื่อระหว่างชั้นผิว และยังมีฤทธิ์ในการขับปัสสาวะ ช่วยลดอาการบวมน้ำซึ่งทำให้เห็นเซลลูไลท์ชัดขึ้นได้


อาหารลดเซลลูไลท์ อันดับที่ 3. พริก

พริกอุดมไปด้วยวิตามินบี 6 ที่ช่วยซ่อมแซมและปกป้องเนื้อเยื่ออ่อนไม่ให้ถูกทำลาย ป้องกันการเกิดรอยบุ๋มในชั้นผิว และยังมีการวิจัยพบว่า สารแคปไซซิน ในพริกช่วยกระตุ้นการเผาผลาญให้เพิ่มขึ้นได้ถึง 25% นาน 3 ชั่วโมงหลังรับประทานเข้าไปแล้ว ส่งผลให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรี่ได้มากขึ้น จึงช่วยลดไขมัน ช่วยให้เลือดไหลเวียนดี กำจัดสารพิษและช่วยลดการก่อตัวของเซลลูไลท์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ


อาหารลดเซลลูไลท์ อันดับที่ 4. ดาร์กเบอร์รี่

ลูกเบอร์รี่สีเข้มทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นบลูเบอร์รี่ หรือแบล็กเบอร์รี่ ช่วยในการสร้างคอลลาเจน ช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ที่ทำให้ผิวกระจ่างใสและเรียบเนียน แต่ประโยชน์ของเบอร์รี่สีเข้มยังไม่หมดเท่านี้ เพราะยังเปี่ยมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ตรงเข้าสลายไขมัน ก่อนจะเข้าไปจับตัวกับเซลล์เนื้อเยื้ออ่อน จนกลายเป็นก้อนใต้ชั้นผิวทำให้ผิวดูไม่เรียบเนียน


อาหารลดเซลลูไลท์ อันดับที่ 5. น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลไซเดอร์

ตัวช่วยชูรสในน้ำสลัด น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลไซเดอร์ อุดมไปด้วยโพแทสเซียม แม็กนีเซียม และแคลเซียม ช่วยกำจัดสารพิษและขับน้ำที่คั่งในเซลล์บริเวณต้นขาและหน้าท้อง ช่วยลดอาการบวม ท้องอืด และลดการก่อตัวของเซลลูไลท์ ช่วยกำจัดฮอร์โมนความเครียด ดีท็อกซ์ตับ ช่วยรักษาสมดุลการผลิตฮอร์โมนเอสโตเจนในร่างกาย ซึ่งหากฮอร์โมนเอสโตเจนไม่สมดุล จะส่งผลต่อการทำให้เกิดเซลลูไลท์ได้ และน้ำส้มสายชูหมักแอปเปิ้ลไซเดอร์ยังมีส่วนช่วยในการลดน้ำหนักได้อีกด้วย

อาหารลดเซลลูไลท์ อันดับที่ 6. ชาเขียว และชาสมุนไพร

สาร Epigallocatechin gallate หรือ EGCG คือสารต้านอนุมูลอิสระที่พบมาในชาสมุนไพรทั้ง ชาเขียว ชาแดนดิไลออน และน้ำขิง ช่วยเร่งระบบเผาผลาญ และเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย นอกจากนี้ในชาสมุนไพรยังมีปริมาณคาเฟอีนต่ำ และเมื่อจับคู่การทำงานกับ EGCG แล้วจะช่วยเสริมประสิทธิภาพในการกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย และช่วยให้เซลล์ไขมันไม่พองตัวขึ้นจนทำให้เกิดรอยย่น หรือรอยบุ๋มในชั้นผิว


อาหารลดเซลลูไลท์ อันดับที่ 7. น้ำมันมะกอก

น้ำมันมะกอกเป็นไขมันที่ดีต่อร่างกายและยังอุดมไปด้วยสาร โพลีฟีนอล ซึ่งช่วยให้ต่อมไทรอยด์สุขภาพดี เมื่อต่อมไทรอยด์ทำงานได้เป็นปรกติ จะช่วยบูสระบบการเผาผลาญให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยเบิร์นไขมันได้มากขึ้น กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิว เมื่อไขมันใต้ชั้นผิวมีน้อยก็จะทำให้มีการสร้างเซลล์ผิวใหม่มาเติมร่องลึก ทำให้ผิวเรียบเนียน กระชับ วิธีรับประทานน้ำมันมะกอกให้ได้ประโยชน์สูงสุดคือ ตั้งไฟอ่อน ๆ ให้น้ำมันมะกอกผ่านความร้อนเล็กน้อย จากนั้นพรมลงในผักสดที่มีไฟเบอร์สูงแล้วรับประทาน จะทำให้ได้คุณค่าจากน้ำมันมะกอกไปแบบเต็ม ๆ ที่สำคัญอร่อยด้วย


อาหารลดเซลลูไลท์ อันดับที่ 8. ดาร์กช็อกโกแลต

โกโก้ตามธรรมชาติอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยกำจัดไขมันไม่ให้ก่อตัวเป็นเซลลูไลท์ และช่วยให้ระบบการสร้างเซลล์ผิวใหม่ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และคาเฟอีนในช็อกโกแลตยังช่วยดึงน้ำออกจากเซลล์ไขมัน ทำให้ไขมันไม่พองตัว ลดการเกิดรอยขรุขระในผิวได้ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าอัตราส่วน ดาร์กช็อกโกแลต ที่ดีต่อการกำจัดเซลลูไลท์คือกิน 1 ชิ้นสี่เหลี่ยมหรือ 1 ออนซ์ ของดาร์กช็อกโกแลต 80% ขึ้นไปทุกวันจะช่วยเผาผลาญไขมัน และกำจัดเซลลูไลท์ให้ผิวเรียบเนียนได้

อาหารลดเซลลูไลท์ อันดับที่ 9. ฮัมมุส

ฮัมมุสเป็นอาหารที่มีค่าดรรชนีน้ำตาลต่ำ แม้ว่าจะยังไม่มีข้อพิสูจน์ว่ฮัมมุสช่วยกำจัด เซลลูไลท์ ได้ แต่ด้วยความที่เป็นอาหารที่มีค่าดรรชนีน้ำตาลต่ำ ทำให้น้ำตาลผ่านเข้ากระแสเลือดได้น้อย ร่างกายจึงไม่ต้องผลิตอินซูลิน หรือที่เรียกว่าฮอร์โมนแห่งความอ้วน ออกมาดักจับน้ำตาลส่วนเกินในเลือดมากเกินไป การกินอาหารที่มีค่าดรรชนีน้ำตาลต่ำจึงช่วยปกป้องไม่ให้ไขมันขยายตัวออก และจับตัวเป็นเซลลูไลท์ได้


อาหารลดเซลลูไลท์ อันดับที่ 10. หญ้าฝรั่น

หญ้าฝรั่น มีสารต้านการอักเสบที่ช่วยไม่ให้เซลล์ไขมันขยายตัว เพียง 1-2 ออนซ์ในรูปแบบเครื่องเทศหรือของเหลวในกระป๋องก็ช่วยลดความอยากอาหาร และช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดระหว่างเนื้อเยื่อเซลล์ ทำให้กล้ามเนื้อใต้ผิวตึงตัว เซลลูไลท์ก่อตัวได้ยาก เติมหญ้าฝรั่นลงในอาหารไม่ว่าจะเป็นในสลัด หรือทำซอสก็อร่อยดีและมีประโยชน์ด้วย

7 อาหารที่ทำให้ เกิดเซลลูไลท์สะสมโดยไม่รู้ตัว


อาหารที่ทำให้เกิดเซลลูไลท์ อันดับที่ 1. ปลาร้า อาหารหมักดอง

สาวกส้มตำปลาร้าคงต้องนอนร้องไห้แล้วล่ะค่ะ เพราะปลาร้าจัดอยู่ในประเภทอาหารที่ทำให้ขาใหญ่ขาบวมได้ง่ายๆ เลย! เพราะปลาร้านั้นเป็นอาหารที่มีโซเดียมสูงมาก ซึ่งหากร่างกายเราได้รับโซเดียมมากเกินไป จะทำให้เกิด 'อาการตัวบวม' เนื่องจากร่างกายเก็บกักน้ำไว้ใต้ชั้นผิวและเนื้อเยื่อในร่างกายบริเวณต่างๆ มากขึ้นกว่าปกติ ทำให้ร่างกายดูบวมขึ้นในระยะเวลาอันสั้น และเป็นสาเหตุของขาบวมนั่นเอง!


อาหารที่ทำให้เกิดเซลลูไลท์ อันดับที่ 2. อาหารแปรรูป

อาหารแปรรูปทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นไส้กรอก แฮม หมูยอ ลูกชิ้น ที่เราหากินได้ง่ายๆ เป็นอีกหนึ่งอาหารที่สะสมโซเดียมไว้เพียบค่ะ เพราะอาหารเหล่านี้มักจะต้องใช้โซเดียมในการยืดอายุอาหารให้อยู่ได้นานมากขึ้น แถมนอกจากโซเดียมแล้ว ยังมีทั้งไขมันและแป้งที่ถ้าเรากินมากเกินไปก็ทำให้เกิดไขมันสะสมหรือเซลลูไลท์ได้เหมือนกัน!


อาหารที่ทำให้เกิดเซลลูไลท์ อันดับที่ 3. อาหารสำเร็จรูป

อาหารสำเร็จรูป หรือกึ่งสำเร็จรูป ก็คล้ายๆ กับอาหารแปรรูปนั่นล่ะค่ะ ที่จำเป็นจะต้องมีตัวช่วยยืดอายุอาหาร และมีส่วนผสมของผงชูรสที่จะทำให้รสชาติอาหารนั้นดีขึ้น โซเดียมอัดแน่นแบบนี้ยิ่งกินเยอะก็ยิ่งทำให้ขาใหญ่โดยไม่รู้ตัวค่ะ หรือแม้แต่อาหารกึ่งสำเร็จรูปที่เขียนว่าไม่มีผงชูรสก็ยังคงมีสารที่เรียกว่าไดโซเดียม ซึ่งสารนี้ก็เป็นวัตถุปรุงแต่งรสอาหาร ที่ให้รสเข้มข้นกลมกล่อมกว่าผงชูรสหลายเท่านะจ๊ะ ก่อนจะกินควรอ่านฉลากให้ดีก่อน!


อาหารที่ทำให้เกิดเซลลูไลท์ อันดับที่ 4. ซอสปรุงรส

ซอสปรุงรส ไม่ว่าจะเป็นน้ำปลา ซีอิ๊ว ซอสหอยนางรม ล้วนอัดแน่นไปด้วยโซเดียมค่ะ โดยในน้ำปลา 1 ช้อนชา มีโซเดียมถึง 500 มิลลิกรัม, ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ มีโซเดียมถึง 520 มิลลิกรัม ซึ่งร่างกายเราควรได้รับโซเดียมในอาหารไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัมต่อวันนะคะ เห็นแบบนี้แล้ว ยิ่งปรุงเยอะก็ยิ่งขาใหญ่แน่นอน!


อาหารที่ทำให้เกิดเซลลูไลท์ อันดับที่ 5. น้ำซุป น้ำจิ้ม

น้ำซุปชาบู หรือน้ำจิ้มหมูกระทะ เป็นอีกแหล่งสะสมชั้นดีของโซเดียมเลยล่ะ! เพราะแน่นอนว่าในน้ำซุปและน้ำจิ้มเหล่านั้นจะต้องมีการปรุงรสให้ได้รสชาติที่กลมกล่อมเข้มข้น ทั้งผงชูรส ผงปรุงรส น้ำปลา บอกเลยว่ารวมกันอยู่ในน้ำซุป น้ำจิ้มนี่ล่ะ! หากไม่อยากขาใหญ่แนะนำว่าให้ซดน้ำซุปพอประมาณและจิ้มน้ำจิ้มน้อยๆ จะดีกว่านะคะ


อาหารที่ทำให้เกิดเซลลูไลท์ อันดับที่ 6. อาหารรสจัด

ใครที่ชอบกินอาหารรสจัดบอกเลยว่าต้องระวังนะคะ เพราะอาหารรสจัดที่มีครบรส ทั้งหวาน เค็ม เปรี้ยว เผ็ด และมัน ก็เป็นสาเหตุของขาใหญ่ดีๆ นี่ล่ะ เนื่องจากมีครบทั้งโซเดียม ทั้งไขมันสะสม ซึ่งนอกจากจะทำให้ขาบวมแล้ว ยังทำให้เกิดเซลลูไลท์สะสมที่ต้นขาและไขมันสะสมที่หน้าท้องได้อีกด้วยนะคะ


อาหารที่ทำให้เกิดเซลลูไลท์ อันดับที่ 6. ขนมกรุบกรอบ

รู้หรือไม่คะสาวๆ ขนมกรุบกรอบห่อเล็กๆ หรือชิ้นน้อยๆ ไม่ว่าจะเป็นมันฝรั่งทอด สาหร่ายทอด ขนมข้าวโพดอบกรอบ กลับมีโซเดียมมากกว่าที่เราคิดซะอีก! โดยมันฝรั่งแผ่นๆ ที่เราชอบกินกัน ใน 100 กรัม มีโซเดียมมากถึง 500 มิลลิกรัมเลยทีเดียว หากในหนึ่งวันเรากินอาหารที่มีรสจัดควบคู่กับขนมกรุบกรอบไปด้วยล่ะก็ บอกเลยว่า ขาใหญ่เพราโซเดียมเกินแน่ๆ ล่ะ!

ต้องบอกเลยค่ะว่าการลดเซลลูไลท์นั้น ตราบใดที่เรามีวินัยในการทานอาหารที่มีประโยชน์ ไม่กินของทอดๆ มันๆ รวมทั้งการจัดตารางเวลาการเข้านอนให้เร็วขึ้น สิ่งเหล่านี้ถือเป็นวิธีง่ายๆ ที่สาวๆ ทุกคนสามารถทำได้


ปรึกษาลดน้ำหนัก  ไขมัน และ สัดส่วน ทักแชท

หุ่นสวย สุขภาพดี เริ่มต้นที่ Slim Up Center พร้อมให้คำปรึกษาและบริการทั้ง 18 สาขาทั่วประเทศแล้ววันนี้


Contact Us

Line : https://bit.ly/Slimupcenter หรือ @Slimupcenter

Call Center : 02-620-0000


ดู 32 ครั้ง0 ความคิดเห็น
bottom of page